วันศุกร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2554

my favorite cartoon

his name is .. .
 Pink panther  
paul frank

paul frank with friend

this is foofa  foofa from yo gabba gabba
foofa cake   


foofa slip on vans yo gabba gabba


lilo & stitch

my name is spoongebob
POPEYE 
'' olive ''  popeye ' s girl friend
popeye family

Gorilla History

กำเนิด Honda Gorilla (ฮอนด้า กอริลลา)

เป็น ที่ยอมรับในวงการสองล้อกันว่าฮอนด้า คือผู้บุกเบิกในการผลิตมอเตอร์ไซด์ขนาดจิ๋วของเล่น ในนาม มังกี้ ที่มีเสน่ห์ยั่วยวนแก่ผู้พบเห็นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1967 ( พ.ศ. 2510 )  ด้วยความน่ารักที่มีล้อขนาดเล็กเพียง 5 นิ้ว  ช่วงล่างแบบแข็งตายตัว และ มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครคือ มือจับสามารถพับเก็บได้เพื่อให้ใส่ไปในรถเก๋งไว้ให้ขับขี่เล่นตามที่ต่างๆ ได้

สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวในโลกของ มังกี้ ที่ไม่เหมือนใครนั้นเอง  ทำให้ตัวมังกี้เองเป็นที่นิยมกลายเป็นตัวแทนของคนที่มีหัวใจหนุ่มตลอดกาล เจ้าลิงน้อยตัวนี้ได้เก็บบ่มปรับปรุงสมรรถนะของตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ได้เปลี่ยนขนาดของยางจาก 5 นิ้วเพิ่มให้ใหญ่ขึ้นเป็น 8 นิ้ว พร้อมกับปรับปรุงระบบช่วงล่างดีขึ้นตามลำดับมาตลอด

และแล้วในเดือน สิงหาคม ปี ค.ศ. 1978 ( พ.ศ.​ 2521 ) ฮอนด้าก็ได้เปิดตัวลิงน้อยน้องใหม่ของ มังกี้ออกมาโดยตั้งชื่อให้กับมันว่า กอริลลา"Gorilla" ตั้งรหัสผลิตว่าแซดห้าสิบเจทรี Z50J III 
เจ้า กอริลลา น้องมังกี้ตัวนี้ ใชพื้้นฐานของมังกี้มาออกแบบ  ชิ้นส่วนหลายชิ้นก็ได้หยิบจาก มังกี้ผู้พี่มาใช้ ชิ้นหลักๆที่สำคัญคือโครงตัวถัง (Frame)  และได้กำหนดเอกลักษณ์รูปแบบไว้อย่างชัดเจนคือ ต้องมีถังน้ำมันขนาดใหญ่กว่าเดิมเพื่อที่สามารถบรรจุน้ำมันเชื้อเพลิงได้มาก ขึ้น ฮอนด้าจึงออกแบบให้ถังน้ำมันที่ออกแบบมาใหม่มีลักษณะบวมแบบโอเวอร์ไซส์

์มี ขนาดใหญ่เกินตัวอย่างมาก  ทำให้สามารถบรรจุน้ำมันเชื้อเพลิงได้มากถึง 9 ลิตร มากกว่ามังกี้ผู้พี่ถึง 2 เท่า (มังกี้มาตรฐานมีความจุ  4.5 ลิตร )  ถังน้ำมันขนาดใหญ่เกินตัวนี้เองทำให้ดูคล้ายกับหน้าอกที่บึกบึนของลิง กอริลลา จึงถูกนำมาตั้งชื่อภายหลัง
 และในขณะที่มังกี้มีคันบังคับ เลี้ยว (handlebar) แยกเป็น 2 ชิ้นสามารถพับเก็บได้  แต่คันบังคับเลี้ยวของ กอริลลา จะติดเป็นชิ้นเดียวกันและยึดติดแน่นตายตัว มีใครทราบไหมว่าทำไมมังกี้จึงต้องออกแบบให้คันบังคับเลี้ยวพับเก็บได้ เหตุผลก็แค่เพื่อให้สามารถขนใส่รถยนต์เพื่อนำไปขี่ที่ไหนต่อไหนได้อย่าง สะดวกเท่านั้นเองครับ แต่กอริลลานั้นมีแนวคิดในการสร้างต่างกัน มันถูกกำหนดให้ไปไหนมาไหนด้วยกำลังวังชาของมันเอง มันจึงไม่ต้องการมือจับที่พับเก็บได้ เพื่อขนใส่ในรถ  พูดง่ายๆเปรียบเหมือนกับเด็กที่ไม่ยอมให้ผู้ใหญ่อุ้ม  ฉันเดินไปเองได้จ้า

อีก อย่างที่เป็นจุดเด่นของ กอริลลา นอกจากถังน้ำมันขนาดใหญ่ก็คือ ตะแกรงวางของด้านหน้า  มังกี้จะมีตะแกรงวางของขนาดเล็กที่หลังเบาะบริเวณเหนือไฟท้าย   กอริลลาเห็นดีก็เอามาใช้เช่นกันแต่เพิ่มขนาดตะแกรงให้ใหญ่กว่า ได้คืบเอาศอกแค่นั้นไม่พอกอริลลาได้เพิ่มตะแกรงข้างหน้าเข้าไปอีกโดยยึดติด ไว้กับมือจับเหนือไฟหน้า ทำให้สามารถขนสัมภาระได้มากกว่า อีกด้วย
 
 ถัง น้ำมันของกอริลลาที่บรรจุน้ำมันได้มากถึง 9 ลิตร ลองทายดูซิครับว่ามันจะพาเจ้าของบนเบาะใหญ่อวบของมันไปไกลได้แค่ไหน รับรองเดาไม่ถูกหรอกครับ  เชื่อไหมครับว่ามันสามารถพาเจ้าของจากกรุงเทพด้วยน้ำมันเต็มถังไปได้ไกลถึง ลำปางเลยทีเดียว เพราะมีผลทดสอบออกมาแล้วว่า  เมื่อน้ำมันเต็มถัง มันจะวิ่งได้ระยะทางถึง  630 กิโลเมตร เฉลี่ยแล้วน้ำมันเพียง 1 ลิตรมันไปได้ไกลถึง 70 กิโลเมตร ดูแล้วเหมือนได้เครื่องยนต์มหัศจรรย์มาใส่ ใช่ไหมครับ  แต่เปล่าเลย ก็เครื่องยนต์ตัวเดียวกันแป๊ะๆ กับมังกี้นั้นเอง

คือ นำเอาเครื่องยนต์เบนซินจากมอเตอร์ไซด์รุ่นสุดฮิตคือ ฮอนด้า ซุปเปอร์คัพ Honda Super Cup  ที่มีขนาด 49 ซีซี ลูกสูบเดียว   4 จังหวะ  ซิงเกิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟ SOHC ระบายความร้อนด้วยอากาศแต่ใช้ระบบเกียร์ต่างกันคือ กอริลลา เลือกใช้ระบบเกียร์ธรรมดาแบบมีคลัตช์  4 เกียร์  ส่วนมังกี้ในปีเดียวกันนั้นเลือกใช้ระบบเกียร์ธรรมดาแบบคลัตชอัตโนมัติ 3 เกียร์
กอริลลา ได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับมังกี้ ยาวนานถึงปี ค.ศ.​1992  แล้วสายการผลิตของกอริลลาก็หยุดลงโดยไม่แจ้งสาเหตุ  แต่ด้วยความนิยมของประชาชนที่ยังคงมีต่อ กอริลลา ที่ไม่ได้ลดน้อยลงไปยังคงเห็น กอริลลาอยู่บ้างแต่ไม่มากนักเพราะส่วนใหญ่ถูกเก็บสะสม เป็นผลทำให้มูลค่าของ กอริลลาในเวลานั้นสูงขึ้นอย่างมาก
 
ในเดือน กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1998 คนหัวใจลิงก็ได้ดีใจอีกครั้งเมื่อทราบว่าฮอนด้าสำนึกผิดคิดได้ กลับมาเปิดสายการผลิต กอริลลา อีกครั้งด้วยการนำชิ้นส่วนแบบใหม่มาใช้ โดยเอามาจากมังกี้ที่ผลิตในปีเดียวกันนั้นเอง อย่างเช่น ไฟหน้าดวงใหญ่ และชิ้นส่วนจำนวนมาก อีกหลายชิ้นก็ใช้เป็นโครเมี่ยมตั้งแต่กระโหลกไฟหน้า บังโคลนหน้าและหลัง แต่ดันทะลึ่งตัดตะแกรงใส่ของด้านหน้าออกไป ไม่มีอีกแล้วบ๊ายบาย..

ส่วนถังน้ำมันไซส์ยักษ์ ยังคงรักษาเอกลักษณ์ไว้เช่นเดิมทุกประการ เบาะนั่งถูกออกแบบใหม่ให้นั่งขับขี่สบายกว่าเดิม



รายละเอียดทางเทคนิคของ กอริลลา

มิติ  ยาว กว้าง   สูง :                     1365 x 625 x 880 มิลลิเมตร
ความกว้างฐานล้อ :   895 มิลลิเมตร
เบาะสูง  :                660  มิลลิเมตร
น้ำหนักรถ  :             67  กิโลกรัม
ถังน้ำมันมีความจุ :                                    9  ลิตร
เครื่อง ยนต์  :   เบนซิน 49  ซีซี  ระบบ 4 จังหวะ  1 สูบ ,ระบายความร้อนด้วยอากาศ ,  OHC , เตะสตาร์ต , 4   เกียร์   แบบงัดขึึ้น, แบตเตอรี่ 6 โวลต์ ต่อมาเปลี่ยนเป็น 12โวลต์ ขนาดยางหน้า และ หลัง  :  3.5 – 8  35J

ใน เดือนมกราคม ค.ศ. 1999 ปีที่ทุกวงการทั่วโลกกำลังผวากับเรื่อง วายทูเค Y2K โดนฝรั่่งหลอกรับประทานกันถ้วนหน้า ฮอนด้าก็สร้างปฏิมากรรมชิ้นพิเศษออกมา นั่นคือ ฮอนด้า กอริลลา รุ่นพิเศษของฤดูใบไม้ผลิ "Honda Gorilla Spring Collection" ในความหมายของชื่อกอริลลารุ่นนี้ต้องการสื่อว่าเป็น "กอริลลาที่ทำให้โลกสว่างไสว" ดังนั้นทุกชิ้นส่วนของกอริลลารุ่นนี้ที่สายตามองเห็นจึงถูกจับมาชุบโครเมี่ ยมซะแวววาวไปหมด ตั้งแต่ถังน้ำมัน ฝาครอบด้านข้าง ตะเกียบล้อหน้า แผงครอบโซ่ สวิงอาร์ม ล้วนถูกชุบได้อย่างแววาว งดงาม สร้างแรงดึงดูดภายนอกได้อย่างดีเยี่ยม และฮอนด้าก็รับปากว่าจะทำให้มังกี้สว่างไสวเช่นเดียวกันครับ




                                                          I luv Gorilla :'))

Monkey History



Monkey Bike

      เรื่องราวของลิงน้อย เริ่มต้นในปี ค.ศ. 1961 ( พ.ศ. 2504 ) ในโรงงานผลิตมอเตอร์ไซด์ฮอนด้า ประเทศญี่ปุ่นโดยที่พนักงานในโรงงานได้นำเครื่องยนต์และอุปกรณ์ต่างๆ ของมอเตอร์ไซด์ที่ผลิตอยู่ในสายการผลิตมาลองใส่ในตัวถังขนาดเล็กที่ทำขึ้นมา ใหม่เพื่อ ทำให้เป็นมอเตอร์ไซด์ขนาดจิ๋วย่อส่วนไว้ขับขี่เล่นในยามว่าง หรือ นำพาติดรถไปขับขี่พักผ่อนนอกสถานที่ได้ โดยนำเอาเครื่องยนต์ 4 จังหวะ ขนาด 50 ซีซี,ไฟส่องทาง,ชุดคันเร่ง,มือเบรค จากฮอนด้าคันใหญ่มาใช้ ส่วนตัวโครงและชิ้นส่วนโลหะอื่นๆ ใช้เศษโลหะที่เหลือจากการผลิตมอเตอร์ไซด์คันใหญ่มาทำ แล้วตกแต่งให้สวยงามโดยให้สีตัวโครงเป็นสีแดง ถังน้ำมันสีขาว ตัดกันอย่างลงตัว แล้วใส่ล้อจิ๋วขนาดเล็กเพียง 5 นิ้ว แล้วตั้งชื่อมอเตอร์ไซด์คันน้อยนี้ว่ารุ่น " แซด ร้อย " Z100 ในเวลานั้นยังไม่ใครนึกถึงชื่ออื่น Z100 ขับวิ่งเล่นครั้งแรกในสวนหย่อม ทามา เทค " Tama Tech " บริเวณรอบๆ โรงงานของฮอนด้านั้นเอง และก็เป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่ได้ลองขับขี่ว่า ขี่สนุก ผู้ที่เห็นรูปร่างมอเตอร์ไซด์จิ๋วคันนี้แล้วจินตนาการได้เหมือนกันว่า เหมือนกับลิงผอมตัวยาวๆ ที่แฝงไว้ด้วยความซุกซน จนมอเตอร์ไซด์จิ๋วคันนี้ถูกเรียกชื่อกันติดปากและรู้จักกันภายในอย่างไม่ เป็นทางการว่า " ฮอนด้า มังกี้ " " Honda Monkey " ที่ดูยังไง ยังไง ก็เหมือน "ของเล่น" มากกว่าเป็นมอเตอร์ไซด์ ในช่วงแรกที่ทำขึ้นมานี้ยังไม่มีการวางแผนการผลิตอย่างจริงจัง เหมือนเป็นเพียงโครงงานที่คิดขึ้นมาแล้วรอเช็คกระแสตอบรับอยู่ว่าจะไปรอด หรือไม่ แต่หลังจากที่ Z100 ผ่านสายตาพนักงานที่พบเห็นและลองขับขี่แล้วปรากฎว่า กระแสตอบรับดีมากมีแฟนๆ คลั่งไคล้ ทุกเพศทุกวัย ทุกคนที่พบเห็นล้วนแล้วแต่ปรารถนาจะเป็นเจ้าของ โดยเฉพาะ monkey gold 


รายละเอียดทางเทคนิคของมังกี้
มิติ  ยาว  กว้าง  สูง  :               1360 x 600 x 850  มิลลิเมตร
ฐานล้อกว้าง  :                        895  มิลลิเมตร
เบาะเบาะสูง  :                        660  มิลลิเมตร
น้ำหนักรถ :                            63  กิโลกรัม
เครื่องยนต์  :                          49  ซีซี ,ระบายความร้อนด้วยอากาศ , 4 จังหวะ , OHC ,  สูบเดียว, เตะสตาร์ท , 3   เกียร์   แบบอัตโนมัติ
ตัวถังแบบ   double  cradle
ขนาดยางหน้า และ หลัง  :  3.5 – 8   35J



limited anniversary 40 WoooO !!





ตารางเทียบรุ่น
Z100 (1961)
CZ100 (1964)
Z50M (1967)
Z50A (1969)
Z50Z (1970)
Z50Z (1971)
Z50J (1974)
Z50J-II (1975)
Z50JZ-I (1978)
Z50JZ-III (1978)
Z50JB-I (1981)
Z50JB-III (1981)
Z50JF-L (1984)
Z50JF (1985)
Z50JF (1985) G
Z50JRH (1987)
Z50JJ (1988)
Z50JJ (1988)
Z50JJ-S (1988)
Z50JJ-S (1988)
Z50JRJ (1988)
Z50JL-B (1990)
Z50JM (1991)
Z50JN (1992)
Z50JM (1992)
A-Z50J (1995)
A-Z50J (1996)
A-Z50J (1997)
A-Z50J (1998)
A-Z50J (1999)
BA-AB27 (1999)
BA-AB27 (1999)
BA-AB27 (2000)
BA-AB27 (1998)
BA-AB27 (1998)
BA-AB27 (1998)
BA-AB27 (2002)
BA-AB27 (2002)
BA-AB27 (2002)
BA-AB27 (2002)
BA-AB27 (1998)
BA-AB27 (2003)
BA-AB27 (2003)